ลิ้มรสมะม่วง Alphonso (อัลฟองโซ่) ราชาแห่งผลไม้ (ของอินเดีย)
ตามปกติแล้วเราจะเคยได้ยินว่า ทุเรียนคือ ราชาแห่งผลไม้ ในขณะที่มังคุดเป็นราชินี โดยผลไม้ทั้งสองประเภทเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของไทย และถึงแม้จะมีการปลูกในประเทศอื่น ๆ แต่ก็ไม่อร่อยเท่าของไทย เช่น ทุเรียนมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย แต่หลายคนคงไม่คุ้น หากถามว่า แล้วราชาแห่งผลไม้ในสายตาของชาวอินเดีย คือ อะไร ?? นึกออกไหมครับ ... คำตอบคือ มะม่วงครับ โดยมะม่วงหมายเลข 1 มีชื่อเรียกว่า มะม่วงอัลฟองโซ่ (Alphonso)
มะม่วงอัลฟองโซ่ หรือที่รู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า Happus เป็นมะม่วงที่แม่ทัพเรือชาวโปรตุเกสนำเข้ามายังประเทศอินเดีย (รัฐกัว หรือ Goa) ตั้งแต่ยุคแสวงหาโลกใหม่ - ล่าอาณานิคม ซึ่งชาวพื้นเมืองได้นำไปปลูกกันอย่างแพร่หลาย
มะม่วงอัลฟองโซ่ได้รับการกล่าวขวัญให้เป็นราขาแห่งผลไม้ด้วยรสชาติหวานหอม เนื้อแน่น รับประทานตอนสุก โดยจะมีเนื้อสีเหลืองเข้ม-ส้มอ่อน แต่เปลือกจะไม่เหลืองทั้งลูกเหมือนมะม่วงสุกบ้านเราครับ
จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่มาถึงมุมไบได้ 1 สัปดาห์ ก็ได้ยินพี่ ๆ คนไทยพูดถึงมะม่วงราชานี้อย่างหนาหู แต่ก็ได้ยินว่าหมดหน้าของมันไปแล้ว (ช่วงฤดูร้อนของอินเดีย ซึ่งคือ ประมาณ มี.ค. - พ.ค.) จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ตั้งใจว่าปีหน้าต้องได้ชิม แต่ก็หวั่น ๆ เล็กน้อย เพราะได้ยินว่าราคานั้น แสนจะน่ารังเกียจ พี่บางคนบอกว่า ตอนเข้าหน้ามะม่วงอัลฟองโซ่ใหม่ ๆ พี่เขาซื้อที่ราคาสูงถึง 1,500 รูปี (900 บาท) ต่อ 5-6 ลูก (ประมาณ 1 กิโลกรัมนิด ๆ) ใช่ครับ ขายเป็นลูก ราคาดุเดือดมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายหน้าร้อนที่ผ่านมาราคาเจ้ามะม่วงนี้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากมะม่วงล้นตลาด oversupply) โดยราคาต่อลัง (1 ลัง มีมะม่วง 4 - 10 โหล) ตกลงถึง 2-5 เท่า จาก 5,000 - 10,000 รูปี เป็นประมาณ 1,000 - 4,000 รูปี ขึ้นกับจำนวนและเกรดของมะม่วง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสไปตลาด Crawford ซึ่งเป็นแหล่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น ถังน้ำ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ทิชชู่ ผงซักฟอก ฯลฯ และเป็นแหล่งเครื่องปรุงอาหารจากไทย เช่น ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว น้ำปลา ฯลฯ ตลอดจนผัก ผลไม้สด ซึ่งก็ได้เจอเจ้ามะม่วงราชานี้ตัวเป็น ๆ ด้วย จึงไม่ปล่อยให้หลุดมือ ลงทุนซื้อมาชิมที่ราคา กิโลฯ ละ 400 รูปี ใช่ครับขายเป็นกิโลฯ แล้ว ได้มาทั้งหมด 5 ลูก มีสติกเกอร์ "Best Quality" แปะไว้เรียบร้อย ส่วนขนาดเป็นดังภาพครับ ใหญ่กว่าอกร่องเราเล็กน้อย เปลือกหนา ผิวมัน เปลือกไม่เหลืองทั้งหมดแม้จะสุกแล้ว ไม่มีกลิ่นหอมมากนัก
เนื้อแน่นพอสมควร (แน่นกว่ามะม่วงทานสุกชื่อดังของไทยอย่างน้ำดอกไม้) แต่กลิ่นหมอของอัลฟองโซก็เทียบทั้งอกร่องและน้ำดอกไม้ไม่ได้ ในขณะที่รสหวานนั้น เข้มข้นกำลังดีถึงหวานมากในบางลูก แต่ก็ไม่สู้อกร่องอีกเช่นกัน เม็ดอัลฟองโซ่อ้วนทีเดียว หนาเกือบ 1 ใน 3 ของความหนารวมของมะม่วง

สรุปแล้ว คล้ายกับมะม่วงโชคอนันต์ / มะม่วงแก้ว (สุก) ของไทย ทั้งกลิ่น รสชาติ ความหวาน รสสัมผัส และความแน่นของเนื้อ แต่ไม่รู้ทำไมแพงนักแพงหนา
ผมเคยมีโอกาสได้ทาน honey mango ของปากีสถานตอนใต้ โดยรวมก็คล้าย ๆ โชคอนันต์ครับ แต่เปลือกบาง รสชาติหวานจัด สมชื่อมาก อร่อยครับ
อ้อ ลืมบอกไปว่า คนอินเดียทั่วไปทานมะม่วงโดยรอให้สุกจัด แล้วบีบ ๆ นวด ๆ จนเละ ก่อนกัดเปลือกที่ปลายทิ้ง และดูดน้ำมะม่วงสด ๆแต่ถ้าเป็นร้านดี ๆ หรือโรงแรม ก็จะเสิร์ฟหน้าตาเหมือนในรูปครับ ผมเลยเลียนแบบมา เพราะเคยลองปอกเปลือกแล้ว ไม่เหมาะครับ เพราะเราปอกแบบคนไทย บางที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่สุดท้ายทำให้ผิวด้านในของเปลือกยังอยู่ส่งรสขมจาง ๆ ออกมาก่อกวนรสโดยรวมของมะม่วงครับ
นอกจากนี้ แล้ว ที่อินเดียยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะม่วงหลายอย่าง เช่น น้ำมะม่วง เครื่องดื่มผสมมะม่วง ลูกอม ของหวาน และของทานเล่นที่ผสมเนื้อมะ่ม่วงแห้ง
ตามปกติแล้วเราจะเคยได้ยินว่า ทุเรียนคือ ราชาแห่งผลไม้ ในขณะที่มังคุดเป็นราชินี โดยผลไม้ทั้งสองประเภทเป็นสินค้าทางการเกษตรที่สำคัญของไทย และถึงแม้จะมีการปลูกในประเทศอื่น ๆ แต่ก็ไม่อร่อยเท่าของไทย เช่น ทุเรียนมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย แต่หลายคนคงไม่คุ้น หากถามว่า แล้วราชาแห่งผลไม้ในสายตาของชาวอินเดีย คือ อะไร ?? นึกออกไหมครับ ... คำตอบคือ มะม่วงครับ โดยมะม่วงหมายเลข 1 มีชื่อเรียกว่า มะม่วงอัลฟองโซ่ (Alphonso)
มะม่วงอัลฟองโซ่ หรือที่รู้จักกันในภาษาท้องถิ่นว่า Happus เป็นมะม่วงที่แม่ทัพเรือชาวโปรตุเกสนำเข้ามายังประเทศอินเดีย (รัฐกัว หรือ Goa) ตั้งแต่ยุคแสวงหาโลกใหม่ - ล่าอาณานิคม ซึ่งชาวพื้นเมืองได้นำไปปลูกกันอย่างแพร่หลาย
มะม่วงอัลฟองโซ่ได้รับการกล่าวขวัญให้เป็นราขาแห่งผลไม้ด้วยรสชาติหวานหอม เนื้อแน่น รับประทานตอนสุก โดยจะมีเนื้อสีเหลืองเข้ม-ส้มอ่อน แต่เปลือกจะไม่เหลืองทั้งลูกเหมือนมะม่วงสุกบ้านเราครับ
จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่มาถึงมุมไบได้ 1 สัปดาห์ ก็ได้ยินพี่ ๆ คนไทยพูดถึงมะม่วงราชานี้อย่างหนาหู แต่ก็ได้ยินว่าหมดหน้าของมันไปแล้ว (ช่วงฤดูร้อนของอินเดีย ซึ่งคือ ประมาณ มี.ค. - พ.ค.) จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ตั้งใจว่าปีหน้าต้องได้ชิม แต่ก็หวั่น ๆ เล็กน้อย เพราะได้ยินว่าราคานั้น แสนจะน่ารังเกียจ พี่บางคนบอกว่า ตอนเข้าหน้ามะม่วงอัลฟองโซ่ใหม่ ๆ พี่เขาซื้อที่ราคาสูงถึง 1,500 รูปี (900 บาท) ต่อ 5-6 ลูก (ประมาณ 1 กิโลกรัมนิด ๆ) ใช่ครับ ขายเป็นลูก ราคาดุเดือดมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายหน้าร้อนที่ผ่านมาราคาเจ้ามะม่วงนี้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากมะม่วงล้นตลาด oversupply) โดยราคาต่อลัง (1 ลัง มีมะม่วง 4 - 10 โหล) ตกลงถึง 2-5 เท่า จาก 5,000 - 10,000 รูปี เป็นประมาณ 1,000 - 4,000 รูปี ขึ้นกับจำนวนและเกรดของมะม่วง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสไปตลาด Crawford ซึ่งเป็นแหล่งซื้อข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น ถังน้ำ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ทิชชู่ ผงซักฟอก ฯลฯ และเป็นแหล่งเครื่องปรุงอาหารจากไทย เช่น ซอสหอยนางรม ซีอิ้วขาว น้ำปลา ฯลฯ ตลอดจนผัก ผลไม้สด ซึ่งก็ได้เจอเจ้ามะม่วงราชานี้ตัวเป็น ๆ ด้วย จึงไม่ปล่อยให้หลุดมือ ลงทุนซื้อมาชิมที่ราคา กิโลฯ ละ 400 รูปี ใช่ครับขายเป็นกิโลฯ แล้ว ได้มาทั้งหมด 5 ลูก มีสติกเกอร์ "Best Quality" แปะไว้เรียบร้อย ส่วนขนาดเป็นดังภาพครับ ใหญ่กว่าอกร่องเราเล็กน้อย เปลือกหนา ผิวมัน เปลือกไม่เหลืองทั้งหมดแม้จะสุกแล้ว ไม่มีกลิ่นหอมมากนัก
เนื้อแน่นพอสมควร (แน่นกว่ามะม่วงทานสุกชื่อดังของไทยอย่างน้ำดอกไม้) แต่กลิ่นหมอของอัลฟองโซก็เทียบทั้งอกร่องและน้ำดอกไม้ไม่ได้ ในขณะที่รสหวานนั้น เข้มข้นกำลังดีถึงหวานมากในบางลูก แต่ก็ไม่สู้อกร่องอีกเช่นกัน เม็ดอัลฟองโซ่อ้วนทีเดียว หนาเกือบ 1 ใน 3 ของความหนารวมของมะม่วง

สรุปแล้ว คล้ายกับมะม่วงโชคอนันต์ / มะม่วงแก้ว (สุก) ของไทย ทั้งกลิ่น รสชาติ ความหวาน รสสัมผัส และความแน่นของเนื้อ แต่ไม่รู้ทำไมแพงนักแพงหนา
ผมเคยมีโอกาสได้ทาน honey mango ของปากีสถานตอนใต้ โดยรวมก็คล้าย ๆ โชคอนันต์ครับ แต่เปลือกบาง รสชาติหวานจัด สมชื่อมาก อร่อยครับ
อ้อ ลืมบอกไปว่า คนอินเดียทั่วไปทานมะม่วงโดยรอให้สุกจัด แล้วบีบ ๆ นวด ๆ จนเละ ก่อนกัดเปลือกที่ปลายทิ้ง และดูดน้ำมะม่วงสด ๆแต่ถ้าเป็นร้านดี ๆ หรือโรงแรม ก็จะเสิร์ฟหน้าตาเหมือนในรูปครับ ผมเลยเลียนแบบมา เพราะเคยลองปอกเปลือกแล้ว ไม่เหมาะครับ เพราะเราปอกแบบคนไทย บางที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่สุดท้ายทำให้ผิวด้านในของเปลือกยังอยู่ส่งรสขมจาง ๆ ออกมาก่อกวนรสโดยรวมของมะม่วงครับ
นอกจากนี้ แล้ว ที่อินเดียยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะม่วงหลายอย่าง เช่น น้ำมะม่วง เครื่องดื่มผสมมะม่วง ลูกอม ของหวาน และของทานเล่นที่ผสมเนื้อมะ่ม่วงแห้ง
\(^{}^)/
No comments:
Post a Comment