กลับจากเดลีมาถึงมุมไบ ตั้งใจว่าจะใช้บริการแทกซี่ "จ่ายก่อน ถึงไม่ถึงว่ากัน" (prepaid) ที่สนามบินมุมไบ โดยมีทั้งแบบแทกซี่ธรรมดา (ดำ-เหลือง ไม่แอร์ และขาว-ฟ้า แอร์) และแทกซี่แบบโทรเรียก ซึ่งมี 3 - 4 ค่าย ที่มีเคานเตอร์ในสนามบิน โดยเราสามารถติดต่อที่เคานเตอร์เพื่อแจ้งจุดหมายและชำระเงินค่าบริการ (ที่นี่เรียก ค่าธรรมเนียมความสะดวก) ได้เลย และไปจ่ายค่าโดยสารกับคนชับแทกซี่ต่างหากตามมิเตอร์ (ไม่แน่ใจว่ามีแบบเหมาจ่ายตามระยะทางและจ่ายเงินที่เคานเตอร์เลยหรือไม่)
ตอนแรกก็ว่าจะใช้บริการ Meru Taxi ที่เคยใช้อยู่เป็นประจำโดยเรียกผ่าน app ในมือถือ (ครั้งนี้ไม่ได้เรียกเตรียมไว้) กะว่าจะไปเคานเตอร์ Meru ที่สนามบิน จะด้วยฝนฟ้าเป็นใจเทวดาหยอกล้อ หรือเหตุผลกลใดมิทราบได้ บันดาลใจให้ไม่รอคิวที่เคานเตอร์ Meru และเดินทิ่มพรวดไปเคานเตอร์ Easy Cab ที่ไร้คิวด้วยความมั่นใจ
เมื่อถึงเคานเตอร์ อีพนักงานแขกผู้ชายก็หาได้สนใจ แยแส ประการใดไม่ ไม่มีการสอบถามหรือนำเสนออะไรทั้งสิ้น คือ แมร่งนั่งหันหน้าเฉียง ๆ มองไปทางอื่นอย่างเมินเฉย ก่อนจะสำเหนียกได้ว่ามีลูกค้ามาและหันหน้ามาพ่นภาษาอิงลิชสำเนียงแขก ๆ ด้วยความเร็วประดุจเสียงผายลมที่แว่วหายไปกับสายลม เหลือไว้เพียงความงุนงงว่า "เมื่อกี้พูดอะไรนะ พูดกะเราเหรอ" โชคดีที่อยู่มานาน จับใจความสำคัญพอได้ว่า ต้องจ่าย 80 รูปีตรงนี้ เป็นค่า convenience charge หรือค่าบริการนั่นเอง ที่เหลือไปจ่ายให้คนขับรถ
จากนั้นอีตานั่นก็หันกลับไปทางเดิม ไม่สนใจรับรู้อะไรทั้งสิ้น คือ แบบ "เห้ยยยย ๆๆๆๆๆ ไม่ได้มาขอนั่งฟรีนะโว้ย" ตาขวาเหลือบไปมองเคาน์เตอร์ Meru อีกครั้ง แต่ก็ยังต้องรอคิว เห็นว่าดึกมากแล้ว (เครื่องลงประมาณ 23.30 น.) แม้จะหงุดหงิดรำคาญ รังเกียจพนักงานประเภทนี้มากแค่ไหน ก็กัดฟันหันไปกระชากเสียงใส่หนึ่งทีด้วยความหงุดหงิดว่า "แล้วไงต่อ?"
คราวนี้ นาง (พนักงานเป็น ผช. นะ ไม่ได้เบี่ยงด้วย) ถึงหันมาถามว่า
นางพนักงาน - "ตกลงจะเอาแทกซี่? จะให้จองรถเลยมั้ย? จะให้จองรถเลยมั้ย?"
ผม - "เออเอา ไป ... (ชื่อพื้นที่จุดหมาย)" (สมมติว่าชื่อ Cuffe Parade)
นางพนักงาน - "จ่ายตรงนี้ 80 ที่เหลือไปจ่ายที่คนขับ รถยูจะหน้าตาแบบนี้"
ผมยื่นเงินให้
หลังจากยื่นใบเสร็จค่าบริการให้ นางก็คว้ารูปขนาดสัก A3 บนพื้นแข็งอย่างดีมาให้ดู เห็นเป็นรูปรถสีเงินวาว โมเดลประมาณโตโยต้า Altis รุ่นเมื่อสัก 8-10 ปีที่แล้ว แต่จำไม่ได้แน่ จากนั้นก็ยื่นสลิปที่ระบุชื่อคนขับ เบอร์รถ (เลขท้าย 4 ตัวของทะเบียนรถ) เบอร์โทรติดต่อคนขับ และจุดหมายปลายทางที่เราบอกไป (ชื่อพื้นที่ที่เราบอก) และก็พ่นอิงลิชอย่างลมตดว่า "ออกไปเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย ตรงไป ไปที่รอรถ รถจะไปรับตรงนั้น"
โชคดีที่เราคุ้นเคย พอรู้ว่าตรงไหน แต่พวกมาครั้งแรกคงมึนทีเดียว ผมเองยังคิดไปเองตอนนั้นว่า คงจะมีป้ายบอกเนอะว่าตรงนี้คือ Easy Cab (แน่นอนครับ คิดไปเอง) ผมก็เดินไปที่รอรถ ไม่น่าเชื่อนะครับ เดินถือสลิปรายละเอียดพ้นทางออกของอาคารมาได้ไม่ 10 ม. ดีก็มีแขกที่ 1 พุ่งเข้ามาหา และเริ่มบทสนทนา
แขก 1 - "Easy Cab แม่นบ่ มาเลย ๆ รถไอรออยู่แล้ว"
ตอนนั้นผมงงนะ ว่าเอ๊ะ ให้คนขับมานั่งรอตรงรอรับคนเนี่ยเหรอ ไม่ใช่ว่าอยู่กับรถแล้วรอเรียกมารับผู้โดยสารเหรอ แต่ก็เออสงสัยมาดักเรา แต่ก็ไม่ไว้ใจซะทีเดียว เพราะไม่เชื่อว่าระบบมันจะดี ฉับไวขนาดเดินออกมาแล้วมาดักเจอเลย
ผม - "แม่น ๆ ยู ชื่อ ... (ตามสลิปที่เคานเตอร์ให้มา) เหรอ ??? ช้านจะไป Cuffe Parade"
แขกที่ 1 - "ไปโรงแรมไหน ๆ"
ผม - "ไม่ จะกลับบ้าน"
แขกที่ 1 - "ทางนั้น ๆ" แล้วก็ชี้ให้ผมเดินต่อไปยังจุดรอรถ และแยกตัวจากไป คงกะจะฟันนักท่องเที่ยวเป็นแน่แท้
3 ก้าวถัดมา แขกที่ 2 ก็พุ่งเข้ามา น่าแปลกใจที่ทุกคนรู้ว่าผมใช้ Easy Cab เพราะเริ่มบทสนทนาแบบเดียวกันคือ ถามว่า Easy Cab ใช่หรือไม่
แขกที่ 2 - "Easy Cab ใช่ไหม มาเลย ๆ รถรออยู่" (ทุกคนพร้อมใจกันเอารถมารอรับผม ... คนสำคัญสุด ๆ)
ผม - "มรึงเป็นใครเนี่ย!?!?!?" พร้อมสีหน้าดุดัน เปล่งรังสีความหงุดหงิดรำคาญ "ชื่อ ... รึไง?!?!"
แขกที่ 2 - "อ่อ มาเลย มาทางนี้เลย จะไปไหน?" (ทำท่าเหมือนรู้จักอีตาคนขับ)
ผม - "Cuffe Parade" แต่ผมก็ยังเดินมุ่งไปที่รอรถ แต่ก็ตอบ ๆ ไปแบบเสียไม่ได้
แขกที่ 2 "โอ้ Cuffe Parade ... ช้านไม่ใช่ชื่อนี้ ช้านชื่อ ..." แล้วก็เดินจากไป อันนี้จริง ๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงล้มเลิกไป อาจจะสำเหนียกว่า นักท่องเที่ยวมักจะบอกขื่อโรงแรมเป็นอันดับแรก ไม่บอกชื่อพื้นที่ (รึเปล่า??)
รอดมา 2 แขก และแอบสมเพชเวทนาคนที่หากินจากการเอาเปรียบคนอื่น แต่ก็ช่างมัน กรรมใครกรรมมัน (แต่ไม่ได้แปลว่า ไม่รำคาญนะ)
ยืนรอรถอยู่ชั่ว 5 - 10 นาที ก็เห็นรถขับวนเข้ามา สีเงินหมองเลย (รอยขีดข่วนอย่างกับวิ่งผ่านแนวลวดหนามกั้นม็อบมา แต่ก็เป็นปกติของรถที่นี่) เชคเลขท้าย 4 ตัว ปรากฏว่าตรง จึงรีบพุ่งเข้าไปหา ... ทันใดนั้นเอง มันก็ขับเลยเราไป ... ต้องเสียเวลาเดินย้อนตามไปอีกนิดหน่อย รถหยุดจอดรอ ผมก็ถึงรถพอดี พร้อมส่งสัญญาณให้ตาคนขับ ซึ่งก็กุลีกุจอลงจากรถมายกกระเป๋าใส่ท้ายรถให้ ผมเริ่มยิ้มออก บอกกับตัวเองว่า "น่าจะโออยู่"
ขึ้นรถปุ๊บ
คนขับรถหันมาถามทันที - "$%@##$%*& ????"
ผม - "Cuffe Parade" (เหมือนฟังเข้าใจ 555 - จริงแล้ว งงนิดนึงว่าทำไมไม่มี keyword .. Kitare ที่แปลว่า Where หรือ Kaunsa ที่แปลว่า which แต่ก็นะ คงจะไม่มาถามสารทุกข์สุขดิบ)
คนขับ - "ถวนคำเดิม ย้ำ ๆๆๆๆๆๆๆ"
ผมเริ่มหวั่นใจ อะไรฟระ จะเอาอะไร ก็บอกว่า "Cuffe Parade ไงล่ะ"
คนขับยังคงทำเสมือนหนึ่งว่าพูดเป็นแค่นั้น พร้อมกับเริ่มใช้เสียงดังกรรโชกใส่ ...
คนขับ - "ทวนคำเดิม"
ผมเริ่มคิดว่า เอ๊ะ หรือถามถึงสลิป ผมก็ลองยื่นสลิปให้ เขาก็รับไป ดู ๆ แล้วก็ ... หันมาทวนคำเดิม 555 ... จบเห่ ไม่รู้แล้วเว้ยยยย ...
สุดท้าย คนขับคงคิดได้ ออกรถจากจุดรับผู้โดยสาร แถมทำเนียนเอาสลิปที่ผมให้ไปยื่นให้ รปภ. ที่ดูทางออก โดนตบรถและด่าซะ สุดท้ายก็ต้องยื่นสลิปที่ถูกต้องให้แทน (น่าจะเป็นคูปองสำหรับเข้าไปรับผู้โดยสารในบริเวณที่จัดไว้ให้) ผมกะว่า เห่อ เรียบร้อยสักที แต่รถนี่ทั้งสกปรกและเหม็น กลิ่นเหมือนท่อระบายน้ำหรือร้านขายของชำโบราณ แถมมีขยะโยน ๆ ให้เห็นอยู่ในรถ คงไม่ได้ทำความสะอาดเลย แอร์ก็ไม่ค่อยเย็นนัก แต่เอาเถอะ แปบเดียวเท่านั้น
แต่แล้ว .... เห้ย ไปไหนฟระ ทำไมไม่ออกจากสนามบิน
ปรากฏว่านางวนไปหาคนขับค่ายเดียวกันที่จอดรถรออยู่ในที่จอดของค่าย เพื่อให้มาถามผมเป็นเป็นอิงลิชว่าจะไปไหน ... ผม - "Cuffe Parade ไง" คุณเพื่อนก็หันไปบอกอีตานั่นว่า "Cuffe Parade แถว ๆ Colaba" แล้วก็เดินจากไปแบบกลัวเสียเวลา
คนรถออกรถอีกครั้งวิ่งไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย จนกระทั่งฉีกออกไปทางสายเก่า ซึ่งผมไม่คุ้นทาง ก็ได้แต่เปิด Google Map ตาม กะว่า อย่าขับวนให้เห็นนะ ไม่งั้นมีเรื่องแน่ (อันนี้มีประโยชน์มากนะครับ ขอแนะนำว่าให้ใช้กัน อย่าได้ไว้ใจคนขับเกินไปนัก)
ผ่านไปสักพักก็ไม่มีการขับอ้มขับวนเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่อยู่ดี ๆ นางก็ชะลอรถและข้บเอื่อย ๆ เหมือนหนองซึมจากแผล ... เห่อ อะไรอีกล่ะคราวนี้ (ที่ผ่านมาเคยเจอทั้งขอเข้าห้องน้ำ ขอเติมน้ำ ขอเติมน้ำมัน ขอเติมแก๊ส จึงไม่ค่อยแปลกใจ - แทกซี่อินเดีย เติมน้ำมันยังให้เราจ่ายค่าเวลาให้ 555 สุดยอดมั้ยล่ะ ... แทกซี่พวกนี้จอดรอดักผู้โดยสารนะครับ คงกะว่ามีคนเรียกค่อยวนผ่านไปจัดการธุระ ถ้าเป็นพวกที่วิ่งตลอดแล้วโดนเรียกติด ๆ ก็เข้าใจได้อยู่)
สรุปคือ นางหาคนถามทาง ผมนี่ ... อยากจะขำ แต่ขำไม่ออก อยากจะด่าบริษัท ห่วยแตกจริง ๆ ไอ้คนจองรถ นอกจากมารยาทจะห่วย บริการจะเฮงซวยแล้ว ยังไม่สื่อสารกับคนขับให้เรียบร้อยว่าจุดหมายคือที่ใด แล้วบริษัทคัดเลือกรับคนขับรถยังไง ไม่รู้จักทางขนาดนี้ให้มาขับได้อย่างไร ผมอยากจะ complaint ไปที่บริษัท แต่หาช่องทางในอินเตอร์เนทไม่เจอ เลยลืม ๆ มันไป (แน่นอนครับ ผมไม่โทรไปแน่นอน เพราะคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เสียดายค่าโทรศัพท์)
ถามเสร็จนางก็ขับต่อ (เหมือนจะโดนด่ามากกว่า เพราะดันไปถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้มีอันจะกิน) ขับไปได้พักนึง เอาอีก ชะลออีก สุดท้ายได้ถามคนขับรถแทกซี่ดำ-เหลืองที่จอดอยู่ข้างทาง ผมนี่อยากจะย้ายรถ ถ้าไม่ติดว่าจ่ายอีค่าความสะดวก 80 รูปีไปแล้ว แถมอากาศร้อนอบอ้าวสุด ๆ จำเป็นต้องอาศัยไอเย็นจากแอร์ แม้จะไม่มากแต่ก็ยังดี
พอออกรถครั้งนี้ ผมถามคนขับ "นี่ไม่รู้ทางรึไง" ผมขึ้นเสียงกลับ แล้วก็ลองบอกชื่อถนนสายหลักแต่ก็ยังไม่กระดิกอีก เหมือนบอกว่าไป สุขุมวิท แล้วไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน ... ไหวมั้ย
ผมเลยจัดซะ ข่มขวัญสักหน่อย - "ไป ๆๆ ขับไป ตรงไป เดี๋ยวบอกทางเอง" (บ้ารึเปล่า ไม่รู้ทางอะไรเลย) คือจังหวะนั้นโผล่กลับมาในทางที่ใช้ประจำแล้ว เลยเสียงดังได้ 555
สุดท้ายก็เดินทางถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ
ตรื๊ด ... ใบเสร็จถูกพิมพ์ออกมา ปรากฏมีค่าจอดรอผู้โดยสาร (WAIT FARE) ครับ 3 นาที 7 รูปี นี่ถ้าหากันไม่เจอแล้วรอนานกว่านี้จะโดนเท่าไหร่เนี่ย ... แล้วจอดรอตอนไหนฟระ 3 นาที (น่าจะเป็นตอนนางไปให้เพื่อนช่วยถามผม) รวมแล้วโดนไปเกือบ 700 รูปี หึ ๆ นับว่าแย่ทีเดียวสำหรับเวลาแบบนี้ที่รถไม่ติดเลยและไม่ได้ขึ้นทางพิเศษ แต่จะว่าไปก็ไม่แย่มาก แน่นอนครับไม่ทิป จริงผมควรจะคิดค่าบริการกับทางบริษ้ทนะ ค่าความอดทน และค่าบอกทาง
ตอนแรกก็ว่าจะใช้บริการ Meru Taxi ที่เคยใช้อยู่เป็นประจำโดยเรียกผ่าน app ในมือถือ (ครั้งนี้ไม่ได้เรียกเตรียมไว้) กะว่าจะไปเคานเตอร์ Meru ที่สนามบิน จะด้วยฝนฟ้าเป็นใจเทวดาหยอกล้อ หรือเหตุผลกลใดมิทราบได้ บันดาลใจให้ไม่รอคิวที่เคานเตอร์ Meru และเดินทิ่มพรวดไปเคานเตอร์ Easy Cab ที่ไร้คิวด้วยความมั่นใจ
เมื่อถึงเคานเตอร์ อีพนักงานแขกผู้ชายก็หาได้สนใจ แยแส ประการใดไม่ ไม่มีการสอบถามหรือนำเสนออะไรทั้งสิ้น คือ แมร่งนั่งหันหน้าเฉียง ๆ มองไปทางอื่นอย่างเมินเฉย ก่อนจะสำเหนียกได้ว่ามีลูกค้ามาและหันหน้ามาพ่นภาษาอิงลิชสำเนียงแขก ๆ ด้วยความเร็วประดุจเสียงผายลมที่แว่วหายไปกับสายลม เหลือไว้เพียงความงุนงงว่า "เมื่อกี้พูดอะไรนะ พูดกะเราเหรอ" โชคดีที่อยู่มานาน จับใจความสำคัญพอได้ว่า ต้องจ่าย 80 รูปีตรงนี้ เป็นค่า convenience charge หรือค่าบริการนั่นเอง ที่เหลือไปจ่ายให้คนขับรถ
จากนั้นอีตานั่นก็หันกลับไปทางเดิม ไม่สนใจรับรู้อะไรทั้งสิ้น คือ แบบ "เห้ยยยย ๆๆๆๆๆ ไม่ได้มาขอนั่งฟรีนะโว้ย" ตาขวาเหลือบไปมองเคาน์เตอร์ Meru อีกครั้ง แต่ก็ยังต้องรอคิว เห็นว่าดึกมากแล้ว (เครื่องลงประมาณ 23.30 น.) แม้จะหงุดหงิดรำคาญ รังเกียจพนักงานประเภทนี้มากแค่ไหน ก็กัดฟันหันไปกระชากเสียงใส่หนึ่งทีด้วยความหงุดหงิดว่า "แล้วไงต่อ?"
คราวนี้ นาง (พนักงานเป็น ผช. นะ ไม่ได้เบี่ยงด้วย) ถึงหันมาถามว่า
นางพนักงาน - "ตกลงจะเอาแทกซี่? จะให้จองรถเลยมั้ย? จะให้จองรถเลยมั้ย?"
ผม - "เออเอา ไป ... (ชื่อพื้นที่จุดหมาย)" (สมมติว่าชื่อ Cuffe Parade)
นางพนักงาน - "จ่ายตรงนี้ 80 ที่เหลือไปจ่ายที่คนขับ รถยูจะหน้าตาแบบนี้"
ผมยื่นเงินให้
![]() |
ใบเสร็จค่าความสะดวก (แต่บริการห่วย ๆ) |
โชคดีที่เราคุ้นเคย พอรู้ว่าตรงไหน แต่พวกมาครั้งแรกคงมึนทีเดียว ผมเองยังคิดไปเองตอนนั้นว่า คงจะมีป้ายบอกเนอะว่าตรงนี้คือ Easy Cab (แน่นอนครับ คิดไปเอง) ผมก็เดินไปที่รอรถ ไม่น่าเชื่อนะครับ เดินถือสลิปรายละเอียดพ้นทางออกของอาคารมาได้ไม่ 10 ม. ดีก็มีแขกที่ 1 พุ่งเข้ามาหา และเริ่มบทสนทนา
แขก 1 - "Easy Cab แม่นบ่ มาเลย ๆ รถไอรออยู่แล้ว"
ตอนนั้นผมงงนะ ว่าเอ๊ะ ให้คนขับมานั่งรอตรงรอรับคนเนี่ยเหรอ ไม่ใช่ว่าอยู่กับรถแล้วรอเรียกมารับผู้โดยสารเหรอ แต่ก็เออสงสัยมาดักเรา แต่ก็ไม่ไว้ใจซะทีเดียว เพราะไม่เชื่อว่าระบบมันจะดี ฉับไวขนาดเดินออกมาแล้วมาดักเจอเลย
ผม - "แม่น ๆ ยู ชื่อ ... (ตามสลิปที่เคานเตอร์ให้มา) เหรอ ??? ช้านจะไป Cuffe Parade"
แขกที่ 1 - "ไปโรงแรมไหน ๆ"
ผม - "ไม่ จะกลับบ้าน"
แขกที่ 1 - "ทางนั้น ๆ" แล้วก็ชี้ให้ผมเดินต่อไปยังจุดรอรถ และแยกตัวจากไป คงกะจะฟันนักท่องเที่ยวเป็นแน่แท้
3 ก้าวถัดมา แขกที่ 2 ก็พุ่งเข้ามา น่าแปลกใจที่ทุกคนรู้ว่าผมใช้ Easy Cab เพราะเริ่มบทสนทนาแบบเดียวกันคือ ถามว่า Easy Cab ใช่หรือไม่
แขกที่ 2 - "Easy Cab ใช่ไหม มาเลย ๆ รถรออยู่" (ทุกคนพร้อมใจกันเอารถมารอรับผม ... คนสำคัญสุด ๆ)
ผม - "มรึงเป็นใครเนี่ย!?!?!?" พร้อมสีหน้าดุดัน เปล่งรังสีความหงุดหงิดรำคาญ "ชื่อ ... รึไง?!?!"
แขกที่ 2 - "อ่อ มาเลย มาทางนี้เลย จะไปไหน?" (ทำท่าเหมือนรู้จักอีตาคนขับ)
ผม - "Cuffe Parade" แต่ผมก็ยังเดินมุ่งไปที่รอรถ แต่ก็ตอบ ๆ ไปแบบเสียไม่ได้
แขกที่ 2 "โอ้ Cuffe Parade ... ช้านไม่ใช่ชื่อนี้ ช้านชื่อ ..." แล้วก็เดินจากไป อันนี้จริง ๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงล้มเลิกไป อาจจะสำเหนียกว่า นักท่องเที่ยวมักจะบอกขื่อโรงแรมเป็นอันดับแรก ไม่บอกชื่อพื้นที่ (รึเปล่า??)
รอดมา 2 แขก และแอบสมเพชเวทนาคนที่หากินจากการเอาเปรียบคนอื่น แต่ก็ช่างมัน กรรมใครกรรมมัน (แต่ไม่ได้แปลว่า ไม่รำคาญนะ)
ยืนรอรถอยู่ชั่ว 5 - 10 นาที ก็เห็นรถขับวนเข้ามา สีเงินหมองเลย (รอยขีดข่วนอย่างกับวิ่งผ่านแนวลวดหนามกั้นม็อบมา แต่ก็เป็นปกติของรถที่นี่) เชคเลขท้าย 4 ตัว ปรากฏว่าตรง จึงรีบพุ่งเข้าไปหา ... ทันใดนั้นเอง มันก็ขับเลยเราไป ... ต้องเสียเวลาเดินย้อนตามไปอีกนิดหน่อย รถหยุดจอดรอ ผมก็ถึงรถพอดี พร้อมส่งสัญญาณให้ตาคนขับ ซึ่งก็กุลีกุจอลงจากรถมายกกระเป๋าใส่ท้ายรถให้ ผมเริ่มยิ้มออก บอกกับตัวเองว่า "น่าจะโออยู่"
ขึ้นรถปุ๊บ
คนขับรถหันมาถามทันที - "$%@##$%*& ????"
ผม - "Cuffe Parade" (เหมือนฟังเข้าใจ 555 - จริงแล้ว งงนิดนึงว่าทำไมไม่มี keyword .. Kitare ที่แปลว่า Where หรือ Kaunsa ที่แปลว่า which แต่ก็นะ คงจะไม่มาถามสารทุกข์สุขดิบ)
คนขับ - "ถวนคำเดิม ย้ำ ๆๆๆๆๆๆๆ"
ผมเริ่มหวั่นใจ อะไรฟระ จะเอาอะไร ก็บอกว่า "Cuffe Parade ไงล่ะ"
คนขับยังคงทำเสมือนหนึ่งว่าพูดเป็นแค่นั้น พร้อมกับเริ่มใช้เสียงดังกรรโชกใส่ ...
คนขับ - "ทวนคำเดิม"
ผมเริ่มคิดว่า เอ๊ะ หรือถามถึงสลิป ผมก็ลองยื่นสลิปให้ เขาก็รับไป ดู ๆ แล้วก็ ... หันมาทวนคำเดิม 555 ... จบเห่ ไม่รู้แล้วเว้ยยยย ...
สุดท้าย คนขับคงคิดได้ ออกรถจากจุดรับผู้โดยสาร แถมทำเนียนเอาสลิปที่ผมให้ไปยื่นให้ รปภ. ที่ดูทางออก โดนตบรถและด่าซะ สุดท้ายก็ต้องยื่นสลิปที่ถูกต้องให้แทน (น่าจะเป็นคูปองสำหรับเข้าไปรับผู้โดยสารในบริเวณที่จัดไว้ให้) ผมกะว่า เห่อ เรียบร้อยสักที แต่รถนี่ทั้งสกปรกและเหม็น กลิ่นเหมือนท่อระบายน้ำหรือร้านขายของชำโบราณ แถมมีขยะโยน ๆ ให้เห็นอยู่ในรถ คงไม่ได้ทำความสะอาดเลย แอร์ก็ไม่ค่อยเย็นนัก แต่เอาเถอะ แปบเดียวเท่านั้น
แต่แล้ว .... เห้ย ไปไหนฟระ ทำไมไม่ออกจากสนามบิน
ปรากฏว่านางวนไปหาคนขับค่ายเดียวกันที่จอดรถรออยู่ในที่จอดของค่าย เพื่อให้มาถามผมเป็นเป็นอิงลิชว่าจะไปไหน ... ผม - "Cuffe Parade ไง" คุณเพื่อนก็หันไปบอกอีตานั่นว่า "Cuffe Parade แถว ๆ Colaba" แล้วก็เดินจากไปแบบกลัวเสียเวลา
คนรถออกรถอีกครั้งวิ่งไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย จนกระทั่งฉีกออกไปทางสายเก่า ซึ่งผมไม่คุ้นทาง ก็ได้แต่เปิด Google Map ตาม กะว่า อย่าขับวนให้เห็นนะ ไม่งั้นมีเรื่องแน่ (อันนี้มีประโยชน์มากนะครับ ขอแนะนำว่าให้ใช้กัน อย่าได้ไว้ใจคนขับเกินไปนัก)
ผ่านไปสักพักก็ไม่มีการขับอ้มขับวนเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่อยู่ดี ๆ นางก็ชะลอรถและข้บเอื่อย ๆ เหมือนหนองซึมจากแผล ... เห่อ อะไรอีกล่ะคราวนี้ (ที่ผ่านมาเคยเจอทั้งขอเข้าห้องน้ำ ขอเติมน้ำ ขอเติมน้ำมัน ขอเติมแก๊ส จึงไม่ค่อยแปลกใจ - แทกซี่อินเดีย เติมน้ำมันยังให้เราจ่ายค่าเวลาให้ 555 สุดยอดมั้ยล่ะ ... แทกซี่พวกนี้จอดรอดักผู้โดยสารนะครับ คงกะว่ามีคนเรียกค่อยวนผ่านไปจัดการธุระ ถ้าเป็นพวกที่วิ่งตลอดแล้วโดนเรียกติด ๆ ก็เข้าใจได้อยู่)
สรุปคือ นางหาคนถามทาง ผมนี่ ... อยากจะขำ แต่ขำไม่ออก อยากจะด่าบริษัท ห่วยแตกจริง ๆ ไอ้คนจองรถ นอกจากมารยาทจะห่วย บริการจะเฮงซวยแล้ว ยังไม่สื่อสารกับคนขับให้เรียบร้อยว่าจุดหมายคือที่ใด แล้วบริษัทคัดเลือกรับคนขับรถยังไง ไม่รู้จักทางขนาดนี้ให้มาขับได้อย่างไร ผมอยากจะ complaint ไปที่บริษัท แต่หาช่องทางในอินเตอร์เนทไม่เจอ เลยลืม ๆ มันไป (แน่นอนครับ ผมไม่โทรไปแน่นอน เพราะคงคุยกันไม่รู้เรื่อง เสียดายค่าโทรศัพท์)
ถามเสร็จนางก็ขับต่อ (เหมือนจะโดนด่ามากกว่า เพราะดันไปถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้มีอันจะกิน) ขับไปได้พักนึง เอาอีก ชะลออีก สุดท้ายได้ถามคนขับรถแทกซี่ดำ-เหลืองที่จอดอยู่ข้างทาง ผมนี่อยากจะย้ายรถ ถ้าไม่ติดว่าจ่ายอีค่าความสะดวก 80 รูปีไปแล้ว แถมอากาศร้อนอบอ้าวสุด ๆ จำเป็นต้องอาศัยไอเย็นจากแอร์ แม้จะไม่มากแต่ก็ยังดี
พอออกรถครั้งนี้ ผมถามคนขับ "นี่ไม่รู้ทางรึไง" ผมขึ้นเสียงกลับ แล้วก็ลองบอกชื่อถนนสายหลักแต่ก็ยังไม่กระดิกอีก เหมือนบอกว่าไป สุขุมวิท แล้วไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน ... ไหวมั้ย
ผมเลยจัดซะ ข่มขวัญสักหน่อย - "ไป ๆๆ ขับไป ตรงไป เดี๋ยวบอกทางเอง" (บ้ารึเปล่า ไม่รู้ทางอะไรเลย) คือจังหวะนั้นโผล่กลับมาในทางที่ใช้ประจำแล้ว เลยเสียงดังได้ 555
สุดท้ายก็เดินทางถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ
ตรื๊ด ... ใบเสร็จถูกพิมพ์ออกมา ปรากฏมีค่าจอดรอผู้โดยสาร (WAIT FARE) ครับ 3 นาที 7 รูปี นี่ถ้าหากันไม่เจอแล้วรอนานกว่านี้จะโดนเท่าไหร่เนี่ย ... แล้วจอดรอตอนไหนฟระ 3 นาที (น่าจะเป็นตอนนางไปให้เพื่อนช่วยถามผม) รวมแล้วโดนไปเกือบ 700 รูปี หึ ๆ นับว่าแย่ทีเดียวสำหรับเวลาแบบนี้ที่รถไม่ติดเลยและไม่ได้ขึ้นทางพิเศษ แต่จะว่าไปก็ไม่แย่มาก แน่นอนครับไม่ทิป จริงผมควรจะคิดค่าบริการกับทางบริษ้ทนะ ค่าความอดทน และค่าบอกทาง
ผมเลยต้องคิดสโลแกนให้ Easy Cabs สักหน่อยว่า "ง่ายสำหรับเรา ยากสำหรับคุณ"
* * * * * * * * * * *
No comments:
Post a Comment